เงินเดือนถูกบริษัทหักภาษีไว้เท่าไร คิดอย่างไรมาดูกัน

เงินเดือนถูกบริษัทหักภาษีไว้เท่าไร คิดอย่างไรมาดูกัน

เงินเดือนจะถูกบริษัทหักภาษีไว้

ความจริงข้อหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนทราบดีจากความจริงที่ปรากฎอยู่บนสลิปเงินเดือนก็คือเงินเดือนที่จ่ายกับเงินเดือนสุทธิที่ได้รับนั้นไม่เท่ากัน เพราะเงินเดือนที่จ่ายนั้นจะถูกหักสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็คือการหักภาษี ณ ที่จ่าย และบางคนอาจมีหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท จากนั้นจึงจะเหลือเป็นเงินเดือนสุทธิที่โอนเข้าบัญชีเงินเดือนของพนักงานแต่ละคน

ทำไมบริษัทต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย จากเงินเดือนเอาไว้

ตามมาตรา 50 แห่งกฎหมายประมวลรัษฎากรกำหนดให้บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือคณะบุคคลซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 ต้องหักภาษีเงินได้ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน

บริษัทคำนวณภาษีที่หักไว้อย่างไร

สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ 40(2) แต่ละงวดจ่าย ถ้าเป็นรายเดือนก็เท่ากับเงินเดือนแต่ละงวด ให้นำเงินได้พึงประเมินรายงวดนี้คูณด้วยจำนวนงวดที่จะต้องจ่ายตลอดทั้งปีภาษี ถ้าเป็นเงินเดือนก็คูณ 12 (1 ปีภาษีจ่ายเงินเดือน 12 ครั้ง) จะได้จำนวนเงินได้พึงประเมินทั้งหมดที่จ่ายออกไปตลอดปีภาษี

จากนั้นให้นำเงินได้พึงประเมินตลอดทั้งปีนี้ไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีตามเกษณฑ์ในมาตรา 48 จะได้จำนวนภาษีที่จะต้องหักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งปี แล้วหารกลับด้วยจำนวนงวดที่ต้องจ่ายทั้งปีอีกครั้ง ก็จะได้จำนวนเงินภาษีที่บริษัทจะต้องหักเอาไว้ ณ ที่จ่ายในแต่ละงวด

ในกรณีที่ที่หารภาษีทั้งหมดที่ต้องหักไว้ด้วยจำนวนงวดแล้วเหลือเศษ ให้นำเศษนั้นไปรวมเข้ากับเงินภาษีที่จะต้องหัก ณ ที่จ่ายในงวดสุดท้ายของปีภาษี ซึ่งเมื่อรวมจำนวนเงินภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายในแต่ละงวดเข้าด้วยกันก็จะเท่ากับจำนวนเงินภาษีทั้งหมดที่ต้องหักไว้ซึ่งคำนวณได้ก่อนหน้า

ตัวอย่าง การคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งบริษัทหักไว้

หากพนักงานมีเงินเดือน 30,000 บาท เงินเดือนแต่ละงวดจะถูกหักภาษีไว้แต่ละงวดเท่าไร และเหลือเงินเดือนสุทธิเท่าไร

เงินได้พึงประเมิน

เงินได้พึงประเมินรายงวด = 30,000 บาท

เงินได้พึงประเมินของพนักงานตลอดทั้งปี (จ่าย 12 งวดทุกเดือน) = 30,000 x 12 = 360,000 บาท

รายการหักเบื้องต้น

หัก ค่าใช้จ่าย 50% (ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000 บาท

หัก ค่าลดหย่อนส่วนตัว = 60,000 บาท

หัก เข้ากองทุนประกันสังคม = 750 x 12 = 9,000 บาท

เงินได้พึงประเมินสุทธิ

เงินได้พึงประเมินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี = 360,000 – (100,000 + 60,000 + 9,000) = 191,000 บาท

คำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้าของภาษีเงินได้

หลังจากที่ได้ เงินได้พึงประเมินสุทธิที่่จะต้องนำไปคำนวณภาษีแล้ว จะต้องนำไปคำนวณตามอัตราก้าวหน้าของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้

เงินได้สุทธิ เงินได้สุทธิ ฐานภาษี จำนวนภาษีสูงสุด
0-150,000 ยกเว้นภาษี 150,000 0
150,001-300,000 5% 150,000 7,500
300,001-500,000 10% 200,000 20,000
500,001-750,000 15% 250,000 37,500
750,001-1,000,000 20% 250,000 50,000
1,000,001-2,000,000 25% 1,000,000 250,000
2,000,001-5,000,000 30% 3,000,000 900,000
เกิน 5,000,000 ขึ้นไป 35%

150,000 บาทแรกยกเว้นภาษี

ส่วนที่เกินมา (191,000 – 150,000) = 41,000 บาท เสียภาษี 5% = 2,050 บาท

เงินได้พึงประเมินสุทธิทั้งปี 191,000 บาท ต้องเสียภาษีทั้งปี 2,050 บาท

จำนวนเงินที่บริษัทต้องหักไว้ ณ ที่จ่าย

จำนวนเงินที่ต้องหักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งปี 2,050 บาท

จำนวนเงินที่ต้องหักไว้ ณ ที่จ่ายในแต่ละเดือน (งวด) = 2,050 ÷ 12 = 170.8 บาท

เงินเดือนสุทธิ

ดังนั้น ในแต่ละเดือนพนักงานจะเหลือ

เงินเดือนสุทธิ = เงินเดือน – กองทุนประกันสังคม – ภาษีหักไว้ ณ ที่จ่าย

เงินเดือนสุทธิ = 30,000 – 750 – 170 = 29,080 บาท

บริษัทหักภาษีไว้มากเกินไปทำอย่างไร

เมื่อยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.) แล้วบางคนได้คืนภาษีจำนวนมาก สาเหตุหนึ่งนั้นมาจากการที่บริษัทหักเงินภาษี ณ ที่จ่ายเอาไว้มากเกินไป จากการที่บริษัทไม่ทราบว่าพนักงานมีรายการลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เช่น คู่สมรส บุตร ค่าอุปการะคนพิการ เบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันชีวิต กองทุนต่าง ๆ ดอกเบี้ยเงินกู้อสังหาฯ

ทำให้เงินได้พึงประเมินของพนักงานที่บริษัทนำไปคำนวณภาษีที่ต้องหักไว้มีสูง และหักภาษีแก่พนักงานเอาไว้มาก แต่พนักงานก็สามารถแจ้งข้อมูลการลดหย่อนต่าง ๆ ที่พนักงานมีอยู่แก่บริษัทได้โดยการกรอกแบบแจ้งรายการเพื่อการหักลดหย่อน (ล.ย.01)

ทำไมต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่มจำนวนมาก

กรณีนี้ตรงข้ามกับประเด็นก่อนหน้าคือบริษัทหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้น้อยเกินไป ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ย้ายงานในช่วงปีภาษี โดยที่ทำงานแห่งที่ 2 จะประเมินเงินได้พึงประเมินของทั้งปีโดยคูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือในปีภาษี ทำให้จำนวนเงินได้นั้นถูกนำไปคิดภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรืออาจจะไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีเลยก็ได้

ทำให้สุดท้ายแล้วบริษัทหักภาษีไว้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อสิ้นปีภาษีแล้วนำเงินได้จากที่ทำงานทั้ง 2 แห่งมารวมกันจึงพบว่ามีภาษีที่ต้องเสียเพิ่มจำนวนมาก

หากมีข้อสงสัยเรื่องภาษีสอบถามได้ที่คอลเซ็นเตอร์กรมสรรพากร 1161

อ้างอิง : เงินเดือนถูกบริษัทหักภาษีไว้เท่าไร คิดอย่างไรมาดูกัน| DDproperty.com

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart