ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคืออะไร? เข้าใจง่าย พร้อมอัตรา วิธีคิด และเอกสารที่เกี่ยวข้อง

เมื่อพูดถึงเรื่องภาษี หลายคนอาจเคยเห็นคำว่า “ภาษีหัก ณ ที่จ่าย” ปรากฏอยู่ในหนังสือรับรองรายได้ หรือเอกสารทางบัญชีต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้จากการรับจ้างอิสระ หรือแม้แต่เจ้าของกิจการที่ต้องจ่ายค่าบริการให้ผู้อื่น ภาษีประเภทนี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการชำระภาษีเงินได้และถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ทางภาษีที่สำคัญของทั้งผู้จ่ายเงินและผู้รับเงิน ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคืออะไร? มีหลักเกณฑ์อย่างไร? ใครต้องหัก? อัตราเท่าไร? และควรปฏิบัติอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือเสียภาษีเกินจำเป็น

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร เกี่ยวกับการยื่นภาษีอย่างไร

ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคืออะไร?

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) คือ รูปแบบหนึ่งของภาษีเงินได้ที่ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักไว้จากรายได้ของผู้รับเงิน ก่อนที่จะจ่ายเงินให้ แล้วนำส่งกรมสรรพากรตามอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยผู้รับเงินจะได้รับยอดที่ถูกหักภาษีไว้แล้ว และสามารถนำใบรับรองการหักภาษีไปใช้ยื่นขอคืนภาษีหรือใช้ลดหย่อนภาษีได้ในภายหลัง

ทำไมต้องมีภาษีหัก ณ ที่จ่าย?

การหักภาษี ณ ที่จ่ายมีจุดประสงค์เพื่อ

  • ให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างต่อเนื่อง
  • ลดปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษี
  • กระจายภาระภาษีตลอดทั้งปี ไม่ต้องชำระรวมกันครั้งเดียวปลายปี
  • ใช้เป็นเครดิตภาษีเพื่อนำไปหักลดยอดชำระภาษีสิ้นปีของผู้รับเงิน
ใครบ้างที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

ใครบ้างที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย?

  • ผู้จ่ายเงินที่อาจเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล เช่น บริษัท องค์กร
  • ผู้จ่ายค่าจ้าง ค่าบริการ ค่าจ้างเหมา ค่าเช่า ค่าวิชาชีพ ฯลฯ
  • การจ่ายครั้งเดียวหรือหลายครั้ง ที่รวมกันเกิน 1,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมสรรพากร)

ประเภทของรายได้ที่ต้องหักภาษี พร้อมอัตรา

ประเภทรายได้อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบที่ใช้ยื่น
ค่าบริการ / ค่านายหน้า3%ภ.ง.ด. 3 / 53
ค่าโฆษณา2%ภ.ง.ด. 3 / 53
ค่าเช่า (อสังหาริมทรัพย์)5%ภ.ง.ด. 3 / 53
ค่าจ้างเหมาทำของ3%ภ.ง.ด. 3 / 53
ค่าวิชาชีพเฉพาะ (เช่น ทนาย, วิศวกร)3%ภ.ง.ด. 3
ค่าขนส่ง (นิติบุคคลจดทะเบียนขนส่ง)1%ภ.ง.ด. 53
ดอกเบี้ย / เงินปันผล10%ภ.ง.ด. 53
เงินเดือน / ค่าจ้างตามอัตราก้าวหน้าภ.ง.ด. 1

วิธีคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย

1. กรณีผู้จ่าย ไม่ออกภาษีให้

สูตร:
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย = จำนวนเงินที่ต้องจ่าย x อัตราภาษี

ตัวอย่าง:
ค่าจ้าง 30,000 บาท อัตราภาษี 3%
→ หักภาษี = 30,000 x 3% = 900 บาท
→ ผู้รับเงินจะได้ 29,100 บาท

2. กรณีผู้จ่าย ออกภาษีให้

สูตร:
ภาษี = (จำนวนเงินที่จ่าย x อัตราภาษี) / (100 – อัตราภาษี)

ตัวอย่าง:
ค่าจ้าง 30,000 บาท อัตราภาษี 3%
→ ภาษี = (30,000 x 3%) / (100 – 3) = 927.83 บาท
→ ต้องออกหนังสือรับรองว่าเงินได้ = 30,927.83 บาท หักภาษี 927.83 บาท เหลือผู้รับได้ 30,000 บาท

ใครบ้างที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

ขั้นตอนที่ผู้จ่ายต้องทำ

  1. หักภาษีทันที ณ เวลาโอนเงินหรือจ่ายเงิน
  2. ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย ให้ผู้รับเงิน (ใช้ในการยื่นภาษีปลายปี)
  3. ยื่นแบบภาษี ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นผ่าน e-Filing)
  4. นำส่งภาษี เข้ากรมสรรพากรผ่านระบบ e-Filing หรือธนาคาร

ข้อยกเว้นที่ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

  • การจ่ายเงินไม่ถึง 1,000 บาท ต่อรายการ และไม่มีความต่อเนื่อง
  • การซื้อสินค้า (ไม่ใช่บริการ)
  • การจ่ายเงินให้หน่วยงานราชการหรือผู้ได้รับการยกเว้น

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

  • หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย
  • แบบภาษี: ภ.ง.ด. 1, ภ.ง.ด. 3, ภ.ง.ด. 53
  • ใบเสร็จการนำส่งภาษี
วิธีคำนวณ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

สรุป

ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเข้าใจ เพราะเป็นภาระหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องดำเนินการอย่างถูกต้อง หากละเลยอาจถูกเรียกเก็บย้อนหลัง พร้อมดอกเบี้ยและค่าปรับ การเข้าใจประเภทรายได้ อัตราภาษี และวิธีคำนวณภาษี จะช่วยให้คุณบริหารธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

ติดต่อเรา

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart