เปิดบริษรัทรายได้เท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี by adminPosted on 2024-09-17Posted in วางแผนภาษี เปิดบริษรัทรายได้เท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี การเสียภาษีของบริษัทขึ้นอยู่กับประเภทของบริษัทและรายได้ที่ได้รับในแต่ละปี ในประเทศไทย มีข้อกำหนดในการเสียภาษีสำหรับบริษัทที่จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยหลัก ๆ การเสียภาษีของบริษัทจะเกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้นิติบุคคล นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับการเสียภาษีของบริษัทในประเทศไทย: 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax) อัตราภาษี: สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลปัจจุบันอยู่ที่ 20% ของกำไรสุทธิ เกณฑ์รายได้: ไม่ว่าบริษัทจะมีรายได้เท่าใด ก็มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ประจำปีเสมอ หากบริษัทมีรายได้สุทธิ (กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว) บริษัทต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราที่กำหนด 2. บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) สำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30 ล้านบาท มีการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ อัตราภาษีสำหรับ SMEs: รายได้สุทธิไม่เกิน 300,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี รายได้สุทธิส่วนที่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 15% รายได้สุทธิส่วนที่เกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีในอัตรา 20% 3. การยื่นแบบแสดงรายการภาษี บริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ประจำปี ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นรอบบัญชี นอกจากนี้ บริษัทจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ภายใน 2 เดือนหลังจากวันสิ้นรอบ 6 เดือนแรกของปีบัญชี 4. ภาษีประเภทอื่นที่บริษัทต้องพิจารณา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): หากบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี บริษัทต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ของมูลค่าการขายสินค้าและบริการ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax): บริษัทต้องทำการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินได้ที่จ่ายให้กับบุคคลหรือบริษัทอื่น ๆ เช่น ค่าบริการ ค่าจ้าง และค่าสินค้า แล้วนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับกรมสรรพากร สรุป บริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด แต่จะต้องชำระภาษีตามอัตราที่กำหนดหากมีรายได้สุทธิที่เป็นกำไร สำหรับ SMEs ที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 300,000 บาทแรก จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นอกจากนี้ ยังมีภาษีประเภทอื่น ๆ ที่บริษัทต้องพิจารณา เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีหัก ณ ที่จ่าย การดำเนินการด้านภาษีอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและการเสียภาษีที่ไม่ถูกต้อง สนใจวางแผนภาษี จัดทำบัญชี ปรึกษาฟรี! โทร. 0643746472, 0962895253 ส่วนหนึ่งของผลงานดูแลลูกค้าที่มอบความไว้วางใจให้แอคโปรแท็ค (AccProTax) ดูแล จนลูกค้าประทับใจในบริการ และยกนิ้วให้ Post Views: 2
การเสียภาษีของบริษัทขึ้นอยู่กับประเภทของบริษัทและรายได้ที่ได้รับในแต่ละปี ในประเทศไทย มีข้อกำหนดในการเสียภาษีสำหรับบริษัทที่จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยหลัก ๆ การเสียภาษีของบริษัทจะเกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้นิติบุคคล นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับการเสียภาษีของบริษัทในประเทศไทย: 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax) อัตราภาษี: สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลปัจจุบันอยู่ที่ 20% ของกำไรสุทธิ เกณฑ์รายได้: ไม่ว่าบริษัทจะมีรายได้เท่าใด ก็มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ประจำปีเสมอ หากบริษัทมีรายได้สุทธิ (กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว) บริษัทต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราที่กำหนด 2. บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) สำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30 ล้านบาท มีการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ อัตราภาษีสำหรับ SMEs: รายได้สุทธิไม่เกิน 300,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี รายได้สุทธิส่วนที่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 15% รายได้สุทธิส่วนที่เกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีในอัตรา 20% 3. การยื่นแบบแสดงรายการภาษี บริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ประจำปี ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นรอบบัญชี นอกจากนี้ บริษัทจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ภายใน 2 เดือนหลังจากวันสิ้นรอบ 6 เดือนแรกของปีบัญชี 4. ภาษีประเภทอื่นที่บริษัทต้องพิจารณา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): หากบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี บริษัทต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ของมูลค่าการขายสินค้าและบริการ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax): บริษัทต้องทำการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินได้ที่จ่ายให้กับบุคคลหรือบริษัทอื่น ๆ เช่น ค่าบริการ ค่าจ้าง และค่าสินค้า แล้วนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับกรมสรรพากร สรุป บริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด แต่จะต้องชำระภาษีตามอัตราที่กำหนดหากมีรายได้สุทธิที่เป็นกำไร สำหรับ SMEs ที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 300,000 บาทแรก จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นอกจากนี้ ยังมีภาษีประเภทอื่น ๆ ที่บริษัทต้องพิจารณา เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีหัก ณ ที่จ่าย การดำเนินการด้านภาษีอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและการเสียภาษีที่ไม่ถูกต้อง